รู้จักเทคโนโลยี WEB 3.0 เป็นแนวคิด Concept สำหรับ Next Generation อินเทอร์เน็ตรุ่นต่อไปเป็นการพัฒนาและวิวัฒนาการของเว็บไซต์ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมและใช้งานเว็บได้มากขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็น Virtual Web, AI, NFT, Metaverse, VR/AR, Blockchain และอื่น ๆ ปรับให้เข้ากับเทคโนโลยีในปัจจุบันมากขึ้น ที่จะตามมาในอนาคตอีกมากมายถือว่าเป็นอีกหนึ่ง การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของเทคโนโลยีกันเลยทีเดียวรู้จักประวัติของเทคโนโลยี นี้ในแต่ล่ะช่วงกัน
Web 1.0: Static Web (1990-2005)
เป็นหน้าเว็บแบบอ่านอย่างเดียวไม่ค่อยดีสีสันและไม่สามารถโต้ตอบใด ๆ ได้ถ้าใครทันช่วงต้นของอินเทอร์เน็ตในยุค 90’s นั่นแหละคะ เวอร์ชันแรกของอินเทอร์เน็ตโดยตัวเว็บจะไม่มีอะไรเลยนอกการมีไว้เปิดดูข้อมูลอยากเดียวยุคเน็ต KB ที่เปรียบเสมือน 5G ยุคนี้
Web 2.0 Dynamic Web (2005-ปัจจุบัน)
เริ่มมีการใช้งานในปี 2005 โดยเริ่มจากเปิดตัว YouTube และโซเชียลมีเดียพร้อมสมาร์ทโฟนตามมาในไม่ช้าในปี 2007เข้าสู่ยุคแบบไดนามิก เพราะผู้ใช้สามารถโต้ตอบกับหน้าเว็บสื่อสารระหว่างกันและสร้างเนื้อหาได้เราทุกคนต่างก็สร้าง แบ่งปัน และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเนื้อหาในทันทีจากฝ่ามือของเรา หาก Web 1.0 เป็นแบบอ่านอย่างเดียว Web 2.0 อาจถูกมองว่าเป็นการอัปเกรดแบบอ่าน/เขียน หรือสิ่งที่เรารู้จักในชื่ออินเทอร์เน็ตในปัจจุบัน
Web 3.0 Technologies (กำลังใกล้เข้ามา)
คอนเซ็ปต์ ของการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ คือ “อ่าน/เขียน/เป็นเจ้าของ” สามารถทำธุรกรรมแบบ peer-to-peer ของธุรกิจ ตัดคนกลางและถอดอำนาจจากหน่วยงานที่ควบคุมมีการให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว ความโปร่งใส และความเป็นเจ้าของของผู้ใช้มากขึ้น
ส่วนความต่างจาก Web 2.0 ที่เห็นได้ชัดเลยคือ ความอิสระในข้อมูลมากขึ้นคือสิ่งที่เรากำลังประสบอยู่ในขณะนี้ บริษัทพัฒนา หรือ ผู้ฝห้บริการ Platform ต่างๆ เช่นใช้ Instagram เราอาจคิดว่าเป็นเจ้าของเนื้อหา IG แต่จริงแล้วบริษัทต่างหากที่เป็นเจ้า
ของทุกอย่างบนแพลตฟอร์ม และพวกเขาสามารถควบคุมเนื้อหาทั้งหมดที่ผู้ใช้สร้างขึ้นที่นั่นได้อย่างสมบูรณ์ ถ้าพวกเขาต้องการแบนหรือบล็อกเรา ก็สามารถทำได้แบบง่ายๆอีกตัวอย่างหนึ่งคือเกมออนไลน์ยอดนิยมอย่าง Fortnite ผู้ใช้ไม่มีสิทธิ์ควบคุมตัวตนและทรัพย์สินในเกมที่พวกเขา “เป็นเจ้าของ” ใน Web 2.0 ผู้ใช้ไม่สามารถควบคุมและสร้างรายได้จากเนื้อหาที่เราสร้างขึ้นได้
ฟีเจอร์หลักของ Web 3.0 features
– Ubiquity
– Semantic Web
– Artificial Intelligence
– 3D Graphics
– Decentralized
– Blockchain-based
– Cryptocurrency-enabled
– Autonomous และ Artificially intelligent agents
– Virtual reality and Augmented reality
– Internet of Things
แล้วเราต้องเตรียมตัวและระวังอะไรบ้างสำหรับ WEB 3.0
สิ่งที่ผู้ปกครองและสิ่งที่เราต้องคอยสอนน้องเขาเลยคือเลือกความปลอดภัยและการใช้งานอินเทอร์เน็ตให้ระมัดระวังการเข้าถึงสิ่งต่างบนเน็ตบ้างแต่ก็ไม่ต้องไปถึงขั้นปิดกั้นเขาจากเทคโนโลยีหรอกนะคะเพราะพวกนี้เป็นอะไรที่เด็กต้องเจออยู่แล้ว ตาม Concept ของ Digital literacy หรือ 21st Century skills
และยิ่งเทคโนโลยีจะทำให้ในโลกของน้องๆเขาอาจไม่เหมือนกับโลกของเราไม่ว่าจะเป็นเกมที่เขาเล่นสื่อที่เขาชอบดูเราต้องค่อยบอกและเตือนเด็กดังนั้นทางรัฐบาลจึงได้พัฒนาหลักสูตร Computer science หรือ Coding เพื่อสอนเด็กและให้เขารู้จึกเทคโนโลยีพวกนี้มากขึ้น
สรุปแล้ววิสัยทัศน์ของ Web 3.0 นี้มีแนวโน้มที่จะเป็นเวอร์ชันที่เป็นประชาธิปไตยมากกว่าในโลกออนไลน์ในปัจจุบัน มีศูนย์กลางอยู่ที่แนวคิดในการเป็นเจ้าของ ขจัดการควบคุมจากบริษัทข้อมูลขนาดใหญ่ และจะให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวมากกว่าการเฝ้าระวังและการควบคุม ผู้ใช้จะสามารถควบคุมข้อมูลของตนได้อย่างสมบูรณ์ทำให้เราสามารถมีตัวเลือกในการแบ่งปันหรือเก็บข้อมูลเป็นความลับ
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก