การเขียนโค้ดสำหรับเด็กอนุบาลเป็นจริงง่ายกว่าที่เราคิด เด็กๆ อายุห้าขวบสามารถเข้าใจแนวคิดพื้นฐานของการเขียนโปรแกรมทั้งๆที่เค้าอาจจะไม่รู้จักคำว่าการเขียนโปรแกรมเลยด้วยซ้ำ
ในความเป็นจริงการดำเนินชีวิตประจำวันของเรา ก็เหมือนกับการเขียนโปรแกรม เพียงแต่เราไม่รู้ตัว….. และการใช้ชีวิตประจำวันเนี่ยละที่จะสามารถอธิบายแนวความคิดในการเขียนโปรแกรมได้
หากคุณพ่อคุณแม่ หรือคุณผู้อ่านกำลังศึกษาเรื่องการเขียนโปรแกรมสำหรับน้องๆ โดยเฉพาะอายุ 5 ขวบขึ้นไปรายละเอียดข้างล่างนี้สามารถช่วยได้ค่ะ
เริ่มเลยเนอะ
5 แนวคิดการเขียนโปรแกรมฉบับอายุ 5 ขวบขึ้นไป
แนวคิดที่ 1 อัลกอริทึม
เรามาดูความหมายกันก่อนนะคะ
อัลกอริทึมคือคำสั่งที่ได้รับเพื่อให้งานสมบูรณ์และได้รับผลลัพธ์ที่ต้องการ ดังนั้นโปรแกรมเมอร์จะเขียนอัลกอริทึมเพื่อบอกให้คอมพิวเตอร์ทราบถึงวิธีการดำเนินการบางอย่างเพื่อให้ได้ผล เช่นการเขียนผังการทำงานทั้งหมด จนไปถึงรายละเอียดยิบย่อย
เด็กอาจจะยังไม่เข้าใจทางอัลกอริทึ่ม แต่ถ้าบอกว่า สมมติเราจะแปรงฟัน เป้าหมายคือการแปรงฟัน เราจะต้องเริ่มจากตรงไหนดี? แบบนี้ละคะที่เด็กจะได้ลองคิด ว่าเราควรทำอะไรเป็นขั้นตอน หรือ ตัวอย่างหนึ่งที่ดีคือการตัดสินใจว่าจะใส่ชุดอะไรถ้าเราจะออกจากบ้าน ถ้าเราเพิ่งออกจากอ่างอาบน้ำหรืออาบน้ำ เราจะสวมเสื้อผ้าชิ้นไหนก่อน? เราจะไม่ใส่กางเกงชั้นในหลังจากที่ใส่กางเกงยีนส์แล้วถูกไหมคะ หรือหรือเราจะไม่ใส่เสื้อยืดออกนอกเสื้อกันหนาว
นี่ละคะคือโครงสร้างอัลกอริทึ่ม
แนวคิดที่ 2 การเรียงลำดับ
การสอนเด็กเกี่ยวกับลำดับเป็นสิ่งที่ค่อนข้างง่าย ดังนั้นถ้าเราดูอัลกอริทึ่มด้านบนเราจะเห็นลำดับการทำงาน
ในบทความนี้เค้าได้ยกตัวอย่างคือการเล่าเรื่อง เช่น นิทานหมูป่า 3 ตัว กับสุนัขจิ้งจอกเราสามารถแบ่งเรื่องราวออกเป็นภาพได้ จากนั้นจึงผสมผสานภาพและวางภาพตามลำดับที่ถูกต้อง เราสามารถเรียงลำดับได้ว่าหมาป่าอยู่ส่วนไหนของเนื้อเรื่อง แล้วหมูอยู่ตรงไหนหลังจากที่สร้างบ้านเสร็จแล้ว แค่มองเป็นภาพแล้วจะชัดขึ้นค่ะ
แนวคิดที่ 3 การเขียนโปรแกรมแบบใช้ลูป (Loop)
ความหมายของลูปตามภาษาอังกฤษคือ “ห่วง” เป็นห่วงวงๆนะคะ วงกลมหรือวงรี จะวงอะไรก็ได้แต่ไม่มีที่สิ้นสุดเพราะจะวนไปเรื่อยๆ หมายถึงการทำซ้ำแบบไม่รู้จบ
ดังนั้นถ้าเราใช้สิ่งที่พวกเขาทำทุกวันรอบตัวที่เป็นวงๆ แนวคิดการเขียนโปรแกรมแบบลูปจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
ในบทความยกตัวอย่าง การเดินทางไปโรงเรียน
วิธีที่พวกเขามาถึงโรงเรียนทุกวัน หากทุกวันเด็กใช้คำสั่งเดียวกันไม่ว่าจะโดยการเดินเท้าหรือทางรถยนต์สิ่งนี้จะถือว่าเป็นลูปหรือการทำซ้ำ ดังนั้นเราสามารถสอนการเขียนโปรแกรมได้ในเรื่องของทิศทาง เช่น ออกจากถนนรถแล่นและเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวาไป 500 เมตรแล้วเลี้ยวขวา เลี้ยวซ้ายไป 200 เมตร ตอนนี้ไปข้างหน้า 500 เมตรและมาถึงโรงเรียน
ถ้าพวกเขาทำเช่นนี้ทุกวันในโรงเรียนแทนที่จะได้รับคำแนะนำเหมือนกันทุกวัน พวกเขาจำเป็นต้องใช้คำแนะนำเพียงครั้งเดียว จากนั้นคำสั่งเพิ่มเติมว่าเป็นชุดคำสั่งเดียวกันทุกวันซึ่งหมายถึงลูป ง่ายไหมละคะ 😊
แนวคิดที่ 4 การใช้ทางเลือกที่ดีกว่า
เบื้องต้นคือการตรวจสอบเงื่อนไขที่กำหนดทางเลือกที่จะทำ ดังนั้นในคำอื่นๆ การตัดสินใจขึ้นอยู่กับสิ่งที่เกิดขึ้นหรือสิ่งที่เกิดขึ้น เมื่ออธิบายแนวความคิดด้านการเขียนโค้ดสำหรับเด็ก เราสามารถใช้ตัวอย่างของวันเรียนโดยใช้ขั้นตอนต่างกัน เช่น รายละเอียดตามนี้
- ล้างออก
- แต่งตัว
- ทานอาหารเช้า
- แปรงฟัน
- ไปโรงเรียน
- กลับบ้านจากโรงเรียน
- เล่น
- รับประทานอาหารเย็น
- อ่านหนังสือ
- ไปที่เตียง
จากนั้นให้เราดูรายละเอียดเพื่อเลือกสิ่งที่เหมาะสมที่สุด เช่น
“แต่ถ้าในวันพุธเรามีการฝึกเทนนิสหลังจากเลิกเรียนแล้ว เราจะไปทำอะไรต่อ?”
หรือ “แต่ในวันพฤหัสบดีเราจะออกไปกินข้าวเย็น และเราคิดว่าเราจะกลับบ้านช้า ดังนั้นจะไม่มีเวลาอ่านหนังสือเลยล่ะ”
การใช้กิจวัตรและรูปแบบของกิจวัตรประจำวัน สามารถช่วยให้เด็ก ๆ เข้าใจว่าเรื่องของการเขียนโปรแกรมมากขึ้น ง่ายเลยใช่ไหมคะ
แนวคิดที่ 5 Debug (ดีบัก)
ดีบักหมายถึง การแก้ปัญหาที่เราเจอ และเราจะเจอคำแนะนำในการแก้ปัญหา ดังนั้นถ้าเรากำลังพูดถึงการดีบักกับเด็กๆ พวกเขาจำเป็นต้องเข้าใจว่าการแก้ปัญหา หมายถึงการแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้น ตัวอย่างที่ดีที่จะใช้สำหรับเด็กอนุบาลคือการให้พวกเขาทำตามขั้นตอนและทำผิดพลาด ในข้อผิดพลาด ดังนั้นเขียนลำดับใส่แต่ละขั้นตอน และเผื่อสถานการณ์ในการแก้ปัญหา
โดยเรายกตัวอย่าง เช่นการเล่นเขาวงกต เลื่อนไปทางขวาหนึ่งขั้น จากนั้นเลื่อนไปทางซ้ายสองขั้นตอน จากนั้นเลื่อนไปทางขวาสองก้าว ถัดไปย้ายไปทางซ้ายหนึ่งก้าว อย่างไรก็ตามเพื่อเน้นแนวคิดการแก้จุดบกพร่อง ให้คำแนะนำในทางที่เด็ก ๆ เดินผ่านแนวเขาวงกตหรือแม้แต่เข้าไปในผนัง (อาจต้องการบอกให้พวกเขาเก็บแขนของพวกเขาออก) พวกเขาจะนึกถึงคำแนะนำและปัญหาเหล่านี้และจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนตามเพื่อให้ถูกต้อง
การแก้จุดบกพร่องไม่ได้เป็นแนวคิดที่ง่ายที่สุดในการเขียนโปรแกรมแต่เพื่อให้เข้าใจ เด็กส่วนใหญ่จะใจร้อนได้ หลายคนต้องการคำตอบตรงนั้น เป็นแนวคิดการเขียนโปรแกรมที่สำคัญ
ที่มาของเนื้อหา : https://tiny.cc/eakpzy