ทำไมโครงสร้างสมองถึงมีความสำคัญมากกว่าการเรียนโค้ดดิ้ง

เคยไหมที่เจอปัญหานี้


– สอนไม่เข้าใจ
– ทำไมนักเรียนไม่ฟัง
– ยิ่งสอนเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจยากอย่าง coding ดูยากไปกันใหญ่

คำตอบอย่างเดียวเลยค่ะ คือ เราต้องรู้จิตวิทยาเด็กและโครงสร้างสมองเด็ก
เราเอง ครูเอง อาจจะเคยผ่านช่วงอายุ 7 ขวบแต่เด็กไม่เคยผ่านอายุ 20 เหมือนเรา

เราไม่สามารถเอาประสบการณ์ของเรา เปรียบเทียบกับประสบการณ์ของเด็กบางครั้งเราอาจจะรู้สึกว่า
– ทำไมสอนเท่าไหร่ไม่เข้าใจ
– ทำไมไม่คิดแบบนี้
– ทำไมคิดเองไม่ได้
เพราะเด็กไม่มีประสบการณ์เท่าเราค่ะ

หากลองเปรียบเทียบกับการสอน Coding เราคงไม่สามารถเอาเนื้อหาการสอนของมหาลัยมาใช้กับเด็กประถมหรือหากเป็นหลักสูตรเด็กประถมต่างประเทศก็ต้องกลับมาดูด้วยว่าจะเหมาะสมกับเด็กอายุเท่าไหร่เมือเทียบกับเด็กไทยเพื่อมีมาตรฐานและดึงศักยภาพเด็กออกมาให้ถูกจุด

ทุกครั้งที่ทีมงาน CodeKids เขียนหลักสูตร
ทีมงานมีเช็คลิสต์คำถามเพื่อตอบเป้าหมายของผู้สอนและเด็ก สิ่งที่ต้องมีคือ
1. เด็กอายุเท่าไหร่
2. โครงสร้างสมองเด็กช่วงนี้เป็นอย่างไร
3. ทั่วโลก เมื่อเทียบกับอายุเท่านี้ เค้าเรียนอะไรไปบ้างแล้ว
4. เด็กต้องมีพื้นฐานอะไร ถ้าไม่มีต้องเพิ่มอย่างไร ถ้าเคยเรียนแล้วต้องมีระบบเทสอะไรบ้าง
5. แล้วทำอย่างไรต้องสนุก
6. ถ้าไม่สนุกต้องมีแผนสำรองอะไร
7. สำคัญคือ ทำไมเด็กต้องเรียน แล้วเรียนจะได้อะไร
นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น!!

ขอยกตัวอย่างในการสอนหลักสูตร Computer Science ร่วมกับ Match House นะคะ
โจทย์ค่อนข้างยากคือ
สอน Coding อายุ 8 และ 13 ปี ที่เรียนห้องเดียวกันทางเราเองต้องเลือกหลักสูตรที่ไม่เหมือนกันเพื่อสอนเด็กและให้มีจุดเชื่อมร่วมกันภายในระยะ 2 ชม. ต่อวันที่เรียน

ทีมผู้สอนจะถามเด็กเสมอว่า ทำไมถึงอยากเรียนต้องการอะไรจากการเรียนครั้งนี้?

คำตอบที่ทีมงานเจอคือ

น้องอายุ 13 ขวบบอกว่าอยากทำ application
น้องอายุ 8 ขวบอยากเล่นเกมส์ และหุ่นยนต์


ดังนั้นเราต้องสอนในสิ่งที่เค้าต้องการและก่อนเลิกเรียน 10 นาที เรามีเล่น ROV กันค่ะ 😊
ท้ายนี้อยากให้ครู หรือผู้ปกครองลองเรียนรู้เรื่องจิตวิทยาและสมองเด็กนะคะ มันช่วยได้มาก มันช่วยตั้งแต่ต้นเหตุและมันเหมือนมีเชคลิสต์การสื่อสารที่ถูกวิธี

✨บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

บทความที่เกี่ยวข้อง

pokémon-unplugged
คุณครู

แจกคู่มือใบงาน Pokémon Unplugged เกมฟรี!! 23 โปรเจคพร้อมเฉลย (ลิขสิทธิ์แท้แน่นอน)

CodeKids เราไปเจอของดีมาเลยอยากจะมาแนะนำต่อเพื่อเป็นประโยชน์สำหรับคุณครูและผู้ปกครองนำไปใช้สอนเด็กๆ Unplugged Coding